
เดินทางกันมาถึงบทความที่ 3 แล้วนะครับ ถ้าเราจะเริ่มทำผมอยากให้เห็น Funnel ในแพลตฟอร์ม LINE ก่อน สำหรับบทความนี้เราจะเริ่มก้าวเข้ามาสู่วิธีการทำการตลาดผ่านเครื่องมือ LINE กัน แต่ก่อนเริ่มต้นนั้น ขอถามทุกคนก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำธุรกิจครับ คำตอบก็คือ “ลูกค้า” ใครที่ยังไม่รู้ว่าลูกค้าของคุณคือใคร ลองไปติดตามบทความนี้กันดูได้นะครับ > [https://www.everydaymarketing.co/knowledge/how-to-make-online-shop-successful/]

จากภาพนี้คือ Funnel in LINE Platform เป็นภาพรวมของการทำการตลาดในช่องทาง LINE การที่ลูกค้าคนนึงจะตัดสินใจซื้อสินค้าเราให้ลองนึกสถานการณ์ดังนี้
เริ่มต้นลูกค้าคนนึงจากที่ไม่รู้จัก เริ่มเห็นเคยสินค้าแบรนด์ของเราผ่านตา ตามโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ เริ่มค่อยๆได้รู้จักแบรนด์ รู้จักว่าสินค้าของเราคืออะไร เริ่มเห็นประโยชน์ของสินค้า เริ่มสื่อสารด้วย Key message ที่ตรงกับใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น จนเกิดเป็นความเชื่อในสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยการส่งโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ เป็นจุดตัดสินใจให้ซื้อสินค้า หลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว เจ้าของร้านก็ทำการเก็บข้อมูลของลูกค้าเหล่านี้ เอาไว้ เพื่อที่เราจะได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า และใช้ประโยชน์ในการตามหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ต่อไป
ตัวอย่างข้างบนนี้คือ Jounery ตามหลักการของ Marketing Funnel นั้นคือ Awareness > Consideration > Conversion > Retention โดย เครื่องมือใน LINE ก็สามารถนำมาใช้ในแต่ละ Funnel ได้อย่างครบถ้วน เราจะมาลงรายละเอียดกันในแต่ขั้นกันครับ
1. Awareness : เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าจากผู้ใช้งาน LINE กว่า 50 ล้านคน เราสามารถทำให้สินค้าเราเป็นที่รู้จักด้วยเครื่องมือของ LINE
LINE มีกว่า 50 ล้าน User ที่ยังไม่ได้รู้จักเรา และเราสามารถเข้าถึงได้ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกค้ามารู้จักเราโดยมี LINEOA เป็นช่องทางตัวกลางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า นั้นคือจุดเริ่มต้นจากการทำให้ลูกค้าที่ไม่รู้จัก มารู้จักเรา ที่เรียกว่าสร้างการรับรู้ (Awareness) ซึ่งสำหรับ LINE Platform มีเครื่องมือหลากหลายมากที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้
1.1 การซื้อโฆษณาบน LINE Ads Platform (LINE LAP) มีวัตถุประสงค์ในการยิงโฆษณาให้เราเลือกถึง 6 แบบ ยกตัวอย่างวัตถุประสงค์ “การเพิ่มเพื่อน” และ “การเข้าชมเว็บไซต์” สามารถทำให้ผู้ติดตาม ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น หรือส่งคนไปยังเว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่เราต้องการ อีกทั้งยังเหมาะกับคนงบประมาณจำกัดเพราะ LINE Ads Platform สามารถยิงโฆษณาได้โดยไม่มีงบประมาณขั้นต่ำ
1.2 เพิ่มคนติดตามให้ LINE OA โดยการสร้างคิวอาร์โค้ด และ ลิ้งค์ของร้านค้านำไปแชร์ในที่ต่างๆ ทั้ง ออนไลน์ และ ออฟไลน์ นำลิ้งค์ไปใส่ในทุกๆการโพสต์คอนเทนต์ ให้ลูกค้าเราหาเราเจอได้ง่าย สะสมคนติดตามให้มากขึ้นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
1.3 LINE Shopping เป็นร้านค้าที่เชื่อมกับ LINE OA เจ้าของธุรกิจสามารถโพสต์รูปสินค้าและรายละเอียด พร้อมราคาขาย แยกเป็น SKU ตามสินค้าที่มี รอการเข้าถึงจากลูกค้าให้กดสั่งซื้อและจ่ายเงินได้อย่างสะดวก และยังมีแคมเปญต่างๆให้เราเข้าร่วมได้ฟรี เพิ่มยอดขายจากลูกค้าใหม่ ๆ ได้ แล้วยังทำให้ร้านเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย
1.4 แม้แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ ๆ เองก็ยังเลือกเครื่องมือสร้างการรับรู้ ผ่านช่องทาง LINE ด้วยการใช้ Sponsored Stickers ให้ลูกค้าใหม่ๆเข้ามาติดตาม LINE OA แลกกับการดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์สุดน่ารักเอาไว้ใช้ในการแชตได้ Win-Win ทั้งเจ้าของแบรนด์และผู้ใช้งาน
วิธีทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ทำให้มีลูกค้ารู้จักสินค้าของเรามากขึ้น ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของสถาณการณ์ของแต่ละธุรกิจ
2. Consideration : วิธีการเปลี่ยนจากลูกค้าที่รู้จัก > มาเป็นลูกค้าที่เชื่อในสินค้าของเรา

คนหนึ่งคนก่อนที่จะซื้อ ทำให้ลูกค้าเริ่มสนใจ,เชื่อ,มีความอยาก ก่อนจะซื้อสินค้ามากขึ้น (Consideration) ต้องตัดสินใจได้ก่อนว่าสินค้านี้คุ้มค่ากับเงินที่จะจ่ายออกจากกระเป๋า เพราะฉะนั้นเราต้องให้ข้อมูลเพื่อเคลียข้อสงสัย เคลียความกังวลในใจเค้าได้ เช่น มันดีจริงไหม สามารถแก้ได้ด้วย ใบรับรอง,รีวิวจากลูกค้าผุ้ใช้จริง,KOL และอื่นๆ ก็จะทำให้คนซื้อคลายกังวลและมั่นใจเพิ่มขึ้นในแต่ละประเด็นที่เค้าติด
จากลูกค้าที่รู้จักเราเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าที่เชื่อในสินค้า โดยเครื่องมือการสื่อสารไปถึงลูกค้าบนแพลตฟอร์ม LINE ที่ตอบโจทย์ในขั้นนี้คือ
2.1 การบรอดแคส (Broadcast) ฟีเจอร์ประกาศข้อความให้ลูกค้าที่ติดตามเราได้เห็นสินค้าของเรา สร้างความเชื่อมากขึ้นว่าสินค้าเรามีดีอย่างไร แตกต่างจากคนอื่นอย่างไร โดยคอนเทนต์ที่เราจะใช้สื่อสารไปถึงลูกค้าควรเป็นสิ่งที่มีคุณค่าพอที่จะทำให้ลูกค้าเปิดอ่านได้ ข้อดีของการบรอดแคสคือทำให้ประหยัดเวลาของเราที่จะสื่อสารไปถึงลูกค้า เพียงแค่เซ็ตอัพครั้งเดียวสามารถส่งไปหาลูกค้าที่ติดตาม LINE OA ทุกคนพร้อมกันได้ ส่วนทริคการบรอดแคสอย่างไรให้ยอดขายปัง เราขอเก็บไว้เป็นทริคที่จะแชร์ในบทความถัดๆไปนะครับ
2.2 ริชเมนู (Rich menu) อีกตัวช่วยที่จะประหยัดเวลาเราในการตอบคำถามลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นหน้าตาของร้านค้าใน LINE OA อีกด้วย ริชเมนูสามารถทำให้ลูกค้าได้คำตอบ
หรือเชื่อในสินค้าเราเพิ่มขึ้นได้เพียงกดปุ่มๆเดียว ดังนั้นเราต้องลองคิดแล้วว่าแบรนด์ของเรามีอะไรบ้างที่ต้องบอกกับลูกค้า หรืออะไรบ้างที่คิดว่าลูกค้าจะถามบ่อยๆ เช่น รวมแคตตาล็อกสินค้า , รีวิวลูกค้า , สอบถามสาขา เป็นโจทย์ที่แต่ละแบรนด์และธุรกิจเลือกใช้ได้แตกต่างกันออกไป หากใครยังคิดไม่ออกขอแนะนำให้ใช้วิธีการดูจาก แชทที่ลูกค้าทักเข้ามานำคำถามเหล่านั้นมาลองวิเคราะห์ดู และนำไปสร้างไว้ในปุ่มบนริชเมนูของร้านคุณเพียงเท่านี้ลูกค้าได้ข้อมูลสินค้าเรามากขึ้นแบบที่เราไม่ต้องเสียเวลาตอบด้วยตัวเอง

2.3 LINE VOOM หรือว่า LINE TIMELINE เก่านั้นเอง เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานที่ชอบเสพสื่อในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น การโพสต์บนคอนเทนต์บน LINE VOOM นอกจากจะทำให้ลูกค้าที่ติดตามเราอยู่แล้วเชื่อในสินค้าเรา คอนเทนต์ของเรายังมีโอกาสจะไปแสดงในหน้า LINE VOOM For You ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อีกด้วย มัดใจได้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่กันเลยทีเดียว
